Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis


 


พรมแดน  แผนที่  ประวัติศาสตร์  ชาตินิยม


 


25 กันยายน 2548 สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผย "ทรรศนะของประชาชนต่อแนวทางของรัฐบาลในการแก้ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้" พบว่า ประชาชนร้อยละ 79.3 เห็นว่าคำพูดของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ระบุว่า "จะไม่ยอมให้ใครมาแยกดินแดนภาคใต้แม้เพียงตารางนิ้วเดียว" เป็นคำพูดที่เหมาะสม


 


20 มิถุนายน 2551 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ขึ้นเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยปลุกพลังกู้ชาติ ย้ำภายใต้ 62 ปีแห่งการครองราชย์โดยธรรม ประเทศไทยไม่เคยเสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว และจะต้องเป็นเช่นนี้ตลอดไป พร้อมประกาศเดินหน้าสู้เพื่อประเทศไทยและในหลวง


 


แม้จะเป็นคู่ตรงข้ามทางการเมือง แต่สิ่งที่เหมือนกันของทั้ง พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร กับ นายสนธิ ลิ้มทองกุล คือทั้งคู่ต่างฉวยใช้แนวคิดชาตินิยม โดยเฉพาะที่เกี่ยวพันกับเรื่องอธิปไตยเหนือดินแดน เป็นเครื่องมือสนับสนุนการดำเนินการทางการเมืองของตน จะต่างก็ตรงที่ฝ่ายแรกนั้นใช้ชาตินิยมเพื่อสร้างความชอบธรรมในการดำเนินนโยบายของรัฐบาล ขณะที่ฝ่ายหลังนั้นใช้ชาตินิยมเพื่อต่อต้านอำนาจรัฐบาล


 


เหตุที่คำโฆษณาประเภท "จะไม่ยอมเสียดินแดนแม้เพียงตารางนิ้วเดียว" หากนำไปใช้ปลุกเร้ามวลชนเมื่อไร เลือดรักชาติก็มักพุ่งฉีดซ่านเมื่อนั้น ก็เพราะมันไม่ได้ดำรงอยู่อย่างล่องลอย แต่เชื่อมโยงไปยังประวัติศาสตร์นิพนธ์ที่มีฐานะครอบงำสังคมไทยอยู่ว่า บุรพกษัตริย์ของชาติได้หลั่งเลือดเพื่อรักษาผืนแผ่นดินเอาไว้ ดังนั้นหากผู้ใดทำให้ชาติต้องสูญเสียอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนไปแม้เพียงตารางนิ้วเดียว ผู้นั้นไม่เพียงแต่ทรยศต่อชาติ ทว่ายังเนรคุณต่อพระมหากษัตริย์ด้วย  และด้วยเหตุนี้คนจำนวนมากจึงพร้อมที่จะต่อสู้กับพวกทรยศขายชาติ กระทั่งสามารถ "สละเลือดทุกหยาดเป็นราชพลี"


 


ปรากฏการณ์ล่าสุดที่ยืนยันถึงพลานุภาพของแนวคิดชาตินิยมที่ถูกปลุกขึ้นด้วยคำโฆษณาประเภท "จะไม่ยอมเสียดินแดนแม้เพียงตารางนิ้วเดียว" นั่นคือ กรณีขบวนการกู้ชาติเพื่อทวงคืนปราสาทพระวิหารนำโดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งอิทธิฤทธิ์ทำลายล้างของมันจะมากน้อยเพียงใดนั้น ณ ขณะนี้ยังเป็นที่คาดเดาได้ยากนัก


 


อย่างไรก็ดี คงไม่เป็นการสายเกินไป หากเรา-ฟ้าเดียวกัน-จะชวนให้มาทบทวน พินิจพิเคราะห์ กันอีกซักครั้ง ถึงความยอกย้อนและมายาคติว่าด้วยเรื่องพรมแดน-แผนที่-ประวัติศาสตร์-ชาตินิยม


 


เริ่มด้วยบทความของ ธงชัย วินิจจะกูล ว่าด้วย "ภูมิกายาและประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหนังสือของเขาเรื่อง Siam Mapped: A History of the Geo-Body of a Nation (1994)  อันเป็นฐานทางความคิดที่สำคัญของข้อเสนอเรื่อง "ราชาชาตินิยมของเขาในปัจจุบัน


 


จากนั้นก็ชวนเข้าไปถกเถียงกันต่อในกรณีเฉพาะหน้า ได้แก่ ประเด็นร้อนว่าด้วยปราสาทพระวิหาร ผ่านบทความ "คำพากษาคดีปราสาทพระวิหาร: มโนทัศน์ต่อพื้นที่ชายขอบและข้อเสียเปรียบของไทย" ของพวงทอง ภวัครพันธุ์ และ "สี่มิติปราสาทพระวิหาร: ประวัติศาสตร์ ชาตินิยม เส้นพรมแดน แผนเศรษฐกิจ" ของสุภลักษณ์ กาญจนขุนดี…


 


กรุณาอย่ารีรอ เชิญพลิกเข้าไปร่วมวิวาทะกับเรา-ฟ้าเดียวกัน- ท่ามกลางยุคสมัยที่มหาชนชาวไทยมิได้จินตนาการถึง "ชาติ" แบบ "เดียวกัน" อีกต่อไปแล้ว


 


พรมแดน แผนที่ ประวัติศาสตร์ ชาตินิยม


http://www.sameskybooks.org/2008/10/15/editorial23/


 


สารบัญ


http://www.sameskybooks.org/2008/10/15/fah-23/

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net