ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 16.00 น.กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกทำเนียบรัฐบาลได้ถอนกำลังออกไปทั้งหมด โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้เปิดทางให้ตำรวจออกไป และยืนยันว่าจะเป็นการลดความหวาดระแวงระหว่างกัน ส่วนบริเวณเวทีใหญ่ที่สะพานมัฆวานฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถอนกำลังออกไปแล้วเช่นกัน และเหตุการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติ ผู้ชุมนุมบางส่วนจากทำเนียบได้ออกมาสมทบบริเวณดังกล่าว  

ด้าน พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สนช.) ให้สัมภาษณ์ทางช่องเนชั่นทีวี ว่า ขณะได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกทำเนียบรัฐบาล กลับฐานที่มั่นทั้งหมดแล้ว เนื่องจากได้ปฏิบัติหน้าที่ แปะคำสั่งศาลแพ่งให้ผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในทำเนียบฯ เรียบร้อยแล้ว

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของสภาทนายความ นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความได้แถลงข่าวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจงดใช้ความรุนแรงต่อประชาชนโดยระบุว่า คดีที่ศาลไต่สวนฉุกเฉินเกี่ยวกับการชุมนุมและเข้าไปอยู่สถานที่ของทางราชการ จนมีคำสั่งให้ให้คู่กรณี คือ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง กับพวกรวม 6 คน ออกจากสถานที่ราชาการดังกล่าวนั้น คดีนี้เป็นคดีแพ่งไม่ใช่คดีอาญา ทั้งยังเป็นคดีที่ใช้บังคับกับคู่ความในคดี ไม่ได้ผลบังคับกับประชาชนที่ไม่ใช่คู่กรณี ดังนั้น จึงไม่มีกฎหมายรองรับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติต่อประชาชนที่ชุมนุมโดยใช้กำลัง อีกทั้งขณะนี้ยังมีการอุทธรณ์คำสั่งคุ้มครองชั่วคราวดังกล่าวด้วย จึงควรต้องรอการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ให้ยุติก่อน การที่เจ้าหน้าที่ฝ่าฝืนหรือเลือกที่จะปฏิบัติต่อประชาชนโดยการยื้อยุดฉุกกระชาก ทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินและร่างกายของประชาชนนั้นย่อมไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ทางสภาทนายความเห็นว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้อองสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งรัฐบาลที่มีหน้าที่ดำเนินการ หยุดการกระทำดังกล่าวโดยทันที และในขณะเดียวกันก็ต้องนำตัวผู้ที่ออกคำสั่งดังกล่าวมาดำเนินการสอบสวน

นอกจากนี้สภาทนายความยังระบุถึงการชุมนุมของประชาชนว่าเป็นสิทธิที่ได้รับการรับรองตามรัฐธรรมนูญ แต่ทั้งนี้ การชุมนุมดังกล่าวต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย การยึดอาคารสถานที่ราชการเพื่อประท้วงรัฐบาลย่อมไม่ชอบด้วยข้อกฎหมาย แต่การปฏิบัติใดๆ ต่อผู้ชุมนุมที่รวมตัวประท้วงรัฐบาล รัฐบาลก็ไม่ควรสั่งหรือดำเนินการไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อมให้มีการใช้กำลังดำเนินการกับผู้ชุมนุม เพราะไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายใดที่อนุญาตให้ทำเช่นนั้นได้ รัฐจำเป็นต้องดำเนินการไปในกระบวนการศาลเท่านั้น

พันธมิตรแห่ปิดสนามม้านางเลิ้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.30 น. นายศิริชัย ไม้งาม แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้นำกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางจากทำเนียบรัฐบาลถึงสนามม้านางเลิ้งแล้ว เพื่อหวังปิดกั้นไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับเข้าพักผ่อน รวมทั้งสกัดกั้นการลำเอียงอาหารให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย

"รสนา"ร้องผบ.ตร. ตำรวจใช้ปืนจี้หัวผู้ชุมนุมพันธมิตร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. พร้อมด้วย พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรสุข ที่ปรึกษากองบัญชาการกองทัพไทย ได้นำภาพที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อาวุธปืนจี้หัวผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เข้าร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยขอให้ผู้บังคับบัญชาสั่งการอย่างเด็ดขาดไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรง เพราะจะทำให้เกิดเหตุพลาดพลั้งและขยายความรุนแรงเหมือนเหตุพฤษภาทมิฬและเหตุการณ์เดือนตุลาคม นอกจากนี้ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยุติการสลายการชุมนุม เนื่องจากขณะนี้เป็นการชุมนุมของชาวบ้านเป็นเรื่องปลายเหตุต้องแก้ที่ต้นเหตุ โดยวิธีทางการเมืองเปิดเวทีเจรจา

น.ส.รสนา กล่าวว่า ยอมรับว่าการชุมนุมในทำเนียบรัฐบาล หากไม่ถูกต้อง ก็ต้องใช้วิธีละมุนละม่อม ส่วนการเรียกร้องให้แกนนำพันธมิตรฯ ออกมารับผิดชอบก็สามารถเรียกร้องได้ แต่แกนนำพันธมิตรฯ อาจอ้างเพื่อขออารยะขัดขืน แต่มีเรื่องโทษทางอาญาก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย