Skip to main content
sharethis

จากกรณีบริษัท บอดี้แฟชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งผลิตชุดชั้นใน และชุดว่ายน้ำ ยี่ห้อไทรอัมพ์ วาเลเซีย สลอคกี้ AMO อาศัยอำนาจศาลที่อนุญาตเลิกจ้าง น.ส.จิตรา คชเดช ประธานสหภาพแรงงานไทรอัมพ์อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) โดยให้ให้เหตุผลว่า น.ส.จิตราสวมเสื้อที่พิมพ์ข้อความ "ไม่ยืนไม่ใช่อาชญากร คิดต่างไม่ใช่อาชญากรรม" ออกรายการ "กรองสถานการณ์" ช่องเอ็นบีที ในหัวข้อ "ทำท้อง...ทำแท้ง" เมื่อวันที่ 24 เม.ย.51 ทำให้บริษัทเสียชื่อเสียง จนทำให้พนักงานซึ่งเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานไทรอัมพ์ฯ ทำการผละงานและร่วมชุมนุมหน้าบริษัทฯ ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค. เพื่อเรียกร้องให้บริษัทรับ น.ส.จิตรา กลับเข้าทำงาน


 


รายงานความคืบหน้าล่าสุด ในการชุมนุมหน้าบริษัทฯ ของกลุ่มสหภาพแรงงานฯ ตั้งแต่วันที่ 25-27 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยนักข่าวผลเมืองจากในพื้นที่


 


 


วันที่ 25 ส.ค. 51


 



รูปพิธีบวงสรวงขอขมาด้านใน


 



รูปพิธีบวงสรวงขอขมาด้านในและรูปนกที่ผู้ชุมนุมด้านนอกพับไว้ด้านนอก


           


เวลาประมาณ 7.50 น. พนักงานด้านในบริษัทสวมเสื้อเหลืองประมาณ 500 คน นำโดยผู้บริหารทำพิธีบวงสรวงเทพยาดา พระภูมิเจ้าที่ นำพิธีโดยพรมาหมและซินแส พร้อมเครื่องเส้นไหว้จำนวนมาก โดยผู้ชุมนุมด้านนอกเปิดเผยว่า "พนักงานด้านในบริษัทที่สวมเสื้อเหลืองกล่าวถึงวัตถุประสงค์ที่ทำพิธีว่าทำเพื่อ ขอขมาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ พระภูมิเจ้าที่ ที่อยู่บริเวณนั้น จากเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อเหลืองที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา พร้อมขอพรต่อเทพเบื้องบนให้พวกเขาได้รับชัยชนะทุกสิ่งทุกอย่างในครั้งนี้"


 


 



 



รูปผู้ชุมนุมบริเวณหน้าอาคารวานิช


 


ส่วนทางสหภาพที่ชุมนุมด้านนอกนั้น เวลาประมาณ 10.00 น. ได้แบ่งผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งประมาณ 700 คน ไปที่อาคารวานิช ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ของ บริษัทไทร์อัมพ์ ประจำประเทศไทย โดยวัตถุประสงค์ในการไปชุมนุมทางสหภาพเปิดเผยว่า "ต้องการพบผู้บริหารระดับสูงของทางบริษัทให้มีการเจรจาเกิดขึ้นต่อจากการเจรจาเมื่อวันที่ 20 ส.ค.51 ที่มีตัวแทนของกระทรวง สหภาพแรงงานและบริษัท และโดยผลหารือในวันนั้นได้แก่ 1.บริษัทฯ รับข้อเสนอเพื่อยุติปัญหา โดยคงหลักการที่ให้ลูกจ้างที่ไม่เข้าทำงาน กลับเข้าทำงานตามเดิม โดยบริษัทฯ ไม่เอาโทษทางวินัย หรือ ความผิดทั้งทางแพ่งและทางอาญา


 


ส่วนกรณี น.ส.จิตรา คชเดช บริษัทฯ รับข้อเสนอรับเข้าทำงานกับบริษัทไทรอัมพ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย (จำกัด) สาขาถนนเทพารักษ์ ในระดับตำแหน่งไม่ต่ำกว่าเดิม เงินเดือนค่าจ้างไม่ต่ำกว่าเดิม และนับอายุงานต่อเนื่อง ตลอดจนไม่มีการดำเนินคดีทางแพ่งและอาญากับ น.ส.จิตรา ตามที่เจ้าหน้าที่ฯ เสนอ


 


2.ผู้แทนสหภาพฯ รับทราบข้อเสนอของทางบริษัทฯ และเสนอขอให้บริษัทฯ พิจารณาค่าจ้างระหว่างที่ลูกจ้างไม่ทำงาน 3.ผู้แทนบริษัทฯ แจ้งว่าไม่สามารถจ่ายค่าจ้างตามข้อเสนอ และนัดเจรจาครั้งต่อไปในวันที่ 21 ส.ค. 2551 เวลา 10.00 น. สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จ.สมุทรปราการ โดยในท้ายบันทึกได้มีการลงนามทั้งฝ่ายนายจ้าง ฝ่ายสหภาพแรงงาน และฝ่ายข้าราชการ


 


เมื่อเวลาประมาณ บ่าย 3 โมงทางผู้ชุมนุมได้รับการแจ้งมาว่าทางบริษัทจะมีการนัดเจรจาวันที่ 27 ที่แรงงานจังหวัดสมุทรปราการ หลังจากนั้นทางผู้ชุมนุมก็ได้ทยอยกันกลับไปสมทบกับผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ที่อยู่หน้าบริษัท บอดี้แฟชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ต่อไป


 


 


วันที่ 26 ส.ค. 51


 



 



 



รูปบริเวณที่เกิดเหตุโหลดดิ้งเบย์ (บริเวณที่ขนถ่ายสินค้า) ด้านหลังโรงงงาน


 



บริเวณด้านหลังก่อนวันเกิดเหตุ


 



 



ประตู ยามและป้อมยามด้านหลังโรงงานบริเวณที่เกิดเหตุ (ถ่ายจากที่ชุมนุมด้านนอกเข้าไป)


 



รถบรรทุกที่บังบริเวณที่เกิดเหตุและถูกเลื่อนมาที่จอดรถเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้แล้ว


 


เวลาประมาณ 6.50 เกิดเหตุเพลิงไหม้กล่องกระดาษบริเวณ โหลดดิ้งเบร์ ด้านหลังโรงงงาน ห่างจากจุดผู้ชุมนุมด้านหลังประมาณ 50 เมตร ซึ่งมีป้อมยามและประตูอยู่ระหว่างผู้ชุมนุมกับจุดเกิดเหตุ


 


ผู้ชุมนุมด้านหลังกล่าวว่า "ช่วงเกิดเหตุด้านในมีการตะโกนกล่าวหาว่าเป็นฝีมือของผู้ชุมนุมด้านนอก และมีการถ่ายภาพและ VDO และผู้บริหาร ตำรวจมาที่จุดเกิดเหตุอย่างเร็วมาก"


 


----------------


ทั้งนี้หลังเกิดเหตุเวลาประมาณ 8.30 น. ทางสหภาพได้โทรไปถามพนักงานด้านในถึงรายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้านใน ต่อผู้ที่อ้างว่าเห็นเหตุการณ์ ทางผู้สื่อข่าวได้ขออนุญาตถอดความดังนี้


 


ผู้สัมภาษณ์ : เหตุการณ์ด้านในเป็นอย่างไรบ้าง


 


ผู้ให้สัมภาษณ์ : มาพอดี ไหม้ด้านหลังครับ


 


ผู้สัมภาษณ์ : มันเป็นยังไง


 


ผู้ให้สัมภาษณ์ : ผมเดินเข้ามาพอดี ก็เลยเจอจะๆเลย


 


ผู้สัมภาษณ์ : มันไหม้ยังไง


 


ผู้ให้สัมภาษณ์ : มันไหม้กล่องกระดาษ แล้วก็มีชิ้นงานด้วยในนั้น มีม้วนผ้า ม้วนอะไร


 


ผู้สัมภาษณ์ : เป็นห่วง ข้างนอกก็เป็นห่วงข้างใน ลักษณะเป็นอย่างไง มันร้ายแรงเลยรึ


 


ผู้ให้สัมภาษณ์ : ก็ร้ายแรง ถ้าเอาไม่อยู่ผมว่าไม่เหลือเลย ไฟลุกกำลังแรงมากกลัวจะไปติดม้วนผ้า ดีที่ดับไว้ทัน


 


ผู้สัมภาษณ์ : มันไหม้จากข้างล้างหรือข้างบน


 


ผู้ให้สัมภาษณ์ : หมายความว่ายังไง ข้างล่างหรือข้างบน


 


ผู้สัมภาษณ์ : ก็ตรงที่มันไหม้


 


ผู้ให้สัมภาษณ์ : ไหม้จากข้างล่าง เพราะควันมาจากข้างล้าง ฟุ้งขึ้นไป มันก็ไม่ข้างล่างสักเท่าไหร่ ห่างจากพื้นประมาณคืบหนึ่ง คืบกว่าๆ หรือ 2 คืบ


 


ผู้สัมภาษณ์ : แต่ไม่มีใครเป็นอะไรใช่ไหม


 


ผู้ให้สัมภาษณ์ : ไม่มีใครเป็นอะไร ก็มีคนไปเจอพอดีเลย ผู้หญิงเจอก่อน พูดง่ายๆ บอกว่าไฟไหม้พี่ก็วิ่งเข้าไปดู คุณ... (ขอสงวนชื่อ จนท.รักษาความปลอดภัยของบริษัท) วิ่งเข้าไป ก็เอาถังดับเพลิงมาแล้วก็ฉีดไฟก็ลุกขึ้นมาเลยทีนี้


 


ผู้สัมภาษณ์ : ไม่มีใครอยู่บริเวณนั้นเลยหรือ


 


ผู้ให้สัมภาษณ์ : มี คนกำลังเดินขึ้นมา กำลังรูดบัตร จะลัดมารูดบัตร ผู้หญิง 2 คนเห็น ผมก็เดินตามผู้หญิงมา พี่… (ขอสงวนชื่อ จนท.รักษาความปลอดภัยของบริษัท) เดินมาเจอหน้าแกจังๆ เลย เลยฉีดน้ำยาดับเพลิงใส่ แต่ว่าฉีดข้างบนไงผมก็เลยให้ฉีดข้างล่าง ฉีดตรงต้นเพลิง เรื่องไฟช๊อตหรืออะไรตัดออกไปได้เลย เพราะตรงนั้นไม่มีไฟฟ้า ทางขึ้นพอดีบันไดพอดี ไฟลุกใหญ่เลย ถ้าไม่มีถังดับเพลิง ถ้าไม่มีคนเยอะ คน 2 คนเอาไม่อยู่แน่นอนตอนนั้นและมันกล่องกระดาษด้วยไง กลัวไฟติดม้วนผ้าและพลาสติก งานสวิมแวร์ที่เป็นยืดๆ ถ้าไปติดตรงนั้นไม่ต้องพูดถึง ใครก็ห้ามไฟไม่ได้


 


ผู้สัมภาษณ์ : อยู่ข้างนอกเป็นห่วงข้างใน


 


ผู้ให้สัมภาษณ์ : ข้างในวุ่นวาย กำลังถ่ายรูปถ่ายอะไรกัน


 


ทั้งนี้เวลา 9.39 น. ในวันเดียวกันได้สอบถามไปยังท่านเดิมอีกความว่า


 


ผู้สัมภาษณ์ : ที่เกิดไฟไหม้ เป็นเพราะสาเหตุใด


 


ผู้ให้สัมภาษณ์ : วางเพลิง


 


ผู้สัมภาษณ์ : ใครเป็นคนวาง


 


ผู้ให้สัมภาษณ์ : ยังไม่ทราบเลย เขาบอกว่ารู้ตัวการแล้ว


 


ผู้สัมภาษณ์ : ในเมื่อมีแต่พนักงานข้างใน ใครเป็นคนวาง


 


ผู้ให้สัมภาษณ์ : มันมีคนๆหนึ่งขี่มอเตอร์ไชต์ขี้เข้ามาแล้วก็วางเพลิง แล้วขี่มอเตอร์ไซต์ออกไปชนแขนช่างเย็บ เขาบอกมาอย่างงี้


 


ผู้สัมภาษณ์ : มอเตอร์ไซต์เขาไปยังไง


 


ผู้ให้สัมภาษณ์ : เข้ามาเหมือนมอเตอร์ไซค์มาส่งพนักงาน เหมือนเป็นพนักงาน เป็นคนในหรือคนนอกก็ไม่รู้ แต่ช่างเย็บเขาเห็นหน้า


 


ผู้สัมภาษณ์ : ช่างเย็บคนนั้นนั่งรถมาจากไหน คนข้างในน่าจะรู้ว่าช่างเย็บคนนั้นนั่งรถมาจากไหน


 


ผู้ให้สัมภาษณ์ : ก็ไม่ทราบ ช่างเย็บเดินเข้าไปก็โดนมอเตอร์ไชต์เฉียวนิดนึง


 


ผู้สัมภาษณ์ : ช่างเย็บคนนั้นต้องรู้ว่านั่งมอเตอร์ไซต์มาจากไหน


 


ผู้ให้สัมภาษณ์ : ตรงนี้ผมไม่ทราบ


           


ผู้สัมภาษณ์ : แล้วไฟที่ไหม้กล่องผ้ามันอยู่ที่หน้าประตูสโตร์หรือ


 


ผู้ให้สัมภาษณ์ : ครับ ตรงทางเข้า ตรงบันไดขึ้นพอดี ตรงนั้นมันมีรถ 10 ล้อบังอยู่ พอไหม้ปุ๊บก็เอารถ 10 ล้อออก แต่คนที่เห็นเขาบอกว่าพอมอเตอร์ไชต์วิ่งออกไปปุ๊บ ไฟก็ลุกขึ้นเลย พอไฟลุกพี่ก็อยู่ในเหตุการณ์พอดี


           


ผู้สัมภาษณ์ : ข้างในรู้ไหมว่ามอเตอร์ไชต์มาจากไหน


           


ผู้ให้สัมภาษณ์ : เขายังปิดเป็นความลับอยู่ เขายังไม่บอกว่าใครเป็นใคร


           


ผู้สัมภาษณ์ : จะปิดเป็นความลับได้ไง เราก็ต้องรู้สิว่ามอเตอร์ไซค์วันมาจากไหน


           


ผู้ให้สัมภาษณ์ : ตอนแรกมอเตอร์ไชต์เข้ามา พวกยามพวกอะไร นึกว่าเป็นพนักงานของบริษัท พอคราวนี้ขับออกไปชน เฉียวกับช่างเย็บ แล้วขับออกไปเลย ช่างเย็บเขาก็เห็นหน้า อันนี้ผมไปไฟก็ลุกขึ้นเลย


           


ผู้สัมภาษณ์ : พี่เป็นคนเห็นเหตุการณ์ตลอดหรือ


           


ผู้ให้สัมภาษณ์ : พี่ไม่เห็นคนที่ขับมอเตอร์ไซค์ออก แต่พี่เห็นเหตุการณ์ไฟไหม้ เห็นตลอดเลยเพราะมันอยู่ต่อหน้าเลย


           


ผู้สัมภาษณ์ : อย่างงี้ข้างในพูดกันเองหรือเปล่าว่าเป็นการวางเพลิง ไม่ใช่ว่าทางบริษัทเขาทำกันเอง เราก็เป็นห่วงคนข้างใน


           


ผู้ให้สัมภาษณ์ : ที่ว่าทำกันเองคงไม่ทราบ แต่คิดว่าเป็นการวางเพลิงแน่นอน เพราะมันมีผ้าชุบน้ำมัน คิดว่าสูบบุหรี่หรือไฟช๊อตเป็นไปไม่ได้


           


ผู้สัมภาษณ์ : แล้วเขาเอาผ้าชุบน้ำมันมาจากไหน


           


ผู้ให้สัมภาษณ์ : ก็คงจาก ตรงนี้ผมไม่ทราบๆ ถ้าจะเอาก็คงเอามาข้างนอกโรงงาน เดานะ เพราะมอเตอร์ไซค์วิ่งไปปุ๊บไฟก็ลุกปั๊บเลย มีคนเห็นพอดีเลย อยู่ข้างหน้าเหตุการณ์เห็นทุกอย่าง ถ้าไฟคน 2 คนก็เอาไม่อยู่ถึงมีถังดับเพลิงก็เอาไม่อยู่ เพราะไฟตอนนั้นมันลุกมากเลย


 


(สอบถามชื่อ นามสกุล และตำแหน่งผู้ให้สัมภาษณ์ แต่มีการขอไม่ให้เปิดเผยข้อมูล)


 


ผู้สัมภาษณ์ : ทางบริษัทแจ้งความหรือยัง


           


ผู้ให้สัมภาษณ์ : แจ้งแล้ว เขาเอาคนมาพิสูจน์หลักฐาน อย่างงี้เสียหายแก่คนข้างนอกมากเลย ผมเป็นห่วงทั้งข้างนอกข้างใน ทำให้มันดีๆ ครับ ระมัดระวังเวลาประท้วงอะไร


           


ผู้สัมภาษณ์ : ข้างนอกไม่มีอะไร ตอนนี้กลัวว่าข้างในจะทำเองแล้วโยนความผิดมาให้เรา


 


-----


 


ทั้งนี้ เวลาประมาณ 22.00 น. เจ้าพนักงานตำรวจ สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ได้ร่วมกันจับกุม นายโยธิน วานวิน โดยจับกุมตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ 550/2551 ลงวันที่ 26 สิงหาคม 2551


 



"บันทึกจับกุม"


 


โดยแฟนสาว นายโยธิน วานวิน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า "เมื่อคืนเวลาประมาณ 3 ทุ่มกว่าตำรวจได้เข้ามาจับกุม โยธิน ไปที่ สน.บางเสาธง" แฟนสาวโยธิน ยืนยันกับเราว่า ตั้งแต่เที่ยงคืนก่อนวันเกิดเหตุ จนถึงถูกจับกุมนั้นโยธินอยู่กับตนตลอด โดยก่อนเกิดเหตุตนและโยธินนั้นนั่งคุยกันอยู่ด้านหลังกับพักพวกแล้วกลับไปด้วยกัน 2 คนด้วยมอเตอร์ไซค์เพื่อไปพักที่ห้องพักในเคหะ เวลาตี 5 แล้วอยู่ที่นั่นตลอดไม่ได้ไปที่ใดจนกระทั่งตำรวจมาจับกุม ทั้งนี้ตลอดทั้งวันก็มีคนโทรมาเรื่อยๆ พร้อมกล่าวหาว่า โยธินไปเผาหรือไม่เพราะหน้าเหมือนโยธินเลย


 


แฟนสาวโยธินกล่าวอีกว่า "ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเอาโยธินเป็นเหยื่อ พ่อแม้เขารู้เรื่องก็ร้องไห้ ทั้งๆ ที่รู้มาโดยตลอดว่าชุมนุมอยู่หน้าโรงงาน และคิดว่าไม่มีเหตุอะไรที่จะต้องไปทำเช่นนั้น และทั้งๆ ที่วันรุ่งขึ้นจะมีการเจรจาตามความต้องการของผู้ชุมนุมด้านนอกอยู่แล้ว ตอนนี้รู้สึกแย่มาก แต่ก็จะสู้ต่อไปทั้งตนและโยธินกับความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้น"


 


แฟนสาวโยธินยังทิ้งท้ายไว้ว่า "ทำไมไม่คิดว่าเป็นคนข้างในทำหรืออุบัติเหตุบ้าง ทำไมต้องมาลงกับโยธิน ไม่เข้าใจ คิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ไม่ยุติธรรมเลย"


 


 


วันที่ 27 ส.ค. 51


 


ช่วงสายของวัน หลังจากทางประธานสหภาพได้กล่าวถึงความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้นกับ โยธิน และย้ำว่ายังไง โยธินก็ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ตามกฎหมาย ใครจะมากล่าวหาลอยๆ ว่าเป็นคนทำ เป็นคนวางเพลิงเลยไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจและบริษัทฯ ต้องให้เป็นไปตามกฎหมาย


 


หลังจากนั้นทางผู้ชุมนุมด้านในก็ได้นำแถลงการณ์ของวันที่ 26 มาแจกผู้ชุมนุมด้านนอก


 



"แถลงการณ์ต่อเหตุเพลิงไหม้ที่ บริษัทบอดี้แฟชั่น (ประเทศไทย) วันที่ 26 ส.ค.51"


 


จากนั้นเวลา 12.00 น. ตัวแทนเจรจาได้เดินทาองออกไปเพื่อเจรจาที่แรงงานจังหวัดสมุทรปราการ เวลาบ่าย 2 ส่วนนายโยธินนั้น ในช่วงแรกตำรวจค้านการประกันตัว จนมีการถกเถียงกันอย่างหนักกับตัวแทนสหภาพที่ไปคอยดูแล สุดท้ายคุณโยธินจึงได้รับการประกันตัวออกมาในเวลาประมาณบ่าย 4 โมงแล้วเดินทางมาพร้อมผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งที่ไปคอยดูแลและกลับมาอยู่กับผู้ชุมนุมหน้าโรงงานต่อ


 


หลังจากนั้นตัวแทนเจรจากลับมาที่ชุมนุมเวลา 19.30 น. และได้ขึ้นชี้แจงบนเวทีว่า "ไม่มีอะไรที่จะมาทำลายขวัญและกำลังใจพวกเราได้ สหภาพแรงงานจะอยู่เคียงข้างคนงานและผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมทุกคน สิ่งที่เราต่อสู้ก็เพื่อให้มีสหภาพ วันนี้มีการเจรจายาวนาน โดยตัวแทน 3 ฝ่าย


 


บริษัทพูดกับเรา แจ้งให้เราทราบว่ามีพนักงานคนหนึ่งซึ่งเป็นสมาชิกสหภาพเข้าไปวางเพลิง และคิดว่าสหภาพไม่มีส่วนเกี่ยงข้อง แต่ทางสหภาพกล่าวกลับไปว่าสหภาพและเราทุกคนในที่นี้ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่มีใครจะทำลายหม้อข้าวของตนเอง


 


ทั้งนี้ทางสหภาพได้ย้ำให้บริษัทยึดหลักการในวันที่ 20 ส.ค. ตามที่คุยกันที่กระทรวง แต่วันนี้ทางบริษัทก็มีข้อเสนอต่อสหภาพเช่นกัน ก็ไม่มีความชัดเจนวกไปวนมา โดยตัวแทนสหภาพจะทำความเข้าใจและประเมินร่วมกับตัวแทนไลน์ก่อนในวันรุ้งขึ้นว่าขอเสนอนั้นเป็นประโยชน์ต่อพวกเราหรือไม่ และทางบริษัทก็จะรับข้อเสนอเราซึ่งเป็นจุดยืนร่วมกันในวันที่ 20 ไปพิจารณา โดยจะมีการเจรจาต่อในวันพรุ่งนี้บ่าย 2 ที่แรงงานจังหวัดสมุทรปราการ วันนี้มีความคืบหน้าระดับหนึ่งคือจะคุยกันในวันพรุ่งนี้ แต่ถึงจะไม่มีการคุยอะไรเราก็ต้องกลับเข้าทำงานอยู่แล้ว"


 


หลังจากนั้นทางสหภาพได้ทำพิธีรับขวัญ โยธิน และกล่าวว่า ขณะนี้โยธินยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ไม่ใช่อย่างที่ตำรวจและทางบริษัทย้ำว่าเขาผิด เขาเป็นคนวางเพลิง ขนาดคนขโมย อาชญากรอื่นๆ นานกว่าจะมาดูกว่าจะมาจับ แต่ทำไมคดีนี้เร็ว ต่อจากนั้นทางสหภาพได้เรียนเชิญ โยธิน ขึ้นกล่าวความรู้สึกบนเวที โดยโยธินกล่าวว่า "ขอบคุณที่ให้กำลังใจ ตอนแรกเสียใจมากที่โดนเรื่องแบบนี้ แต่ตอนนี้ดีใจมากๆ"


 


ตัวแทนสหภาพกล่าวต่อว่า "ไม่มีใครจะทำลายการรวมตัวของพวกเราได้ เมื่อไหร่ที่คนจนถูกทำลาย เราจะลุกขึ้นสู้ วันนี้หัวใจของพวกเราได้ร้อยเป็นหัวใจเดียวกันแล้ว จะไม่มีใครทอดทิ้งกันในยามทุกข์ยาก ถ้าคนจนรักกันคุกก็ขังเราไม่ได้นาน


 


ผู้ชุมนุมได้ร่วมกันผูกข้อมือรับขวัญโยธิน พร้อมประกาศลั่นว่าแรงงานคนจนจะร้อยดวงใจเป็นหนึ่งเดียวแล้วจะช่วยเหลือกันมีแต่คนจนเท่านั้นที่จะช่วยกัน


 



รูปพิธีการรับขวัญโยธิน


 


ส่วนเรื่องเหตุไฟไหม้นั้นวันนี้ผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถามผู้ชุมนุมด้านนอกบ้าง พบว่า ในช่วงเกิดเหตุด้านในมีผู้ตะโกนต่อว่าผู้ชุมนุมด้านนอกว่า "ทำเกินไปแล้วไอ้พวกข้างนอกจับแมร่งเลย ทำเกินไปแล้ว" ส่วนเรื่องประตูด้านหลัง ช่วงตี 5 ก็เริ่มเปิดให้เข้า โดยรถแท็กซี่ก็เริ่มเข้า แต่ผู้ชุมนุมด้านนอกที่เห็นเหตุการณ์ตั้งข้อสังเกตว่า วันนั้นทำไมประตูส่งของ - รับของหรือโหลดดิ้งเบย์ เปิดเร็วจัง คือเปิดก่อน 7 โมง แต่ถ้าปกติจะเปิด 8 โมง


 


เมื่อถามว่าตอนเกิดเหตุมีใครเห็นตอนไฟเริ่มไหม้หรือไม่ ผู้ชุมนุมก็ไม่มีใครเห็นเนื่องจากมีรถ 10 ล้อสีขาว (ตามรูปข้างต้น) บังอยู่ แต่สักพักผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า คุณน้อม ประทุมทอง (ผู้ที่บริษัทกล่าวว่าได้รับบาดเจ็บจากการถูกไฟไหม้ที่มือขวา เพราะว่าช่วยเหลือในการปกป้องพนักงานผู้อื่น (ตามแถลงการณ์ของบริษัทวันที่ 26 ส.ค.51) ก็โดดมาทางโหลดดิ้งเบย์หลังรถคันดังกล่าว พร้อมกับสูบบุหรี่ และเปิดประตูด้านซ้ายของรถ ขับรถไปทางด้านหน้าสักพักหนึ่ง โดยช่วงขับรถไปด้านหน้านั้นทำให้ผู้ชุมนุมที่อยู่ด้านนอกเห็นว่าเปลวไฟลุกนิดเดียว แล้วก็มีการเอาน้ำยามาดับเหลิงจากนั้นควันมันก็ฟุ้ง


 


จากนั้นรถสีขาวก็ถอยหลังไปที่จอดรถ ผู้ชุมนุมยังตั้งข้อสังเกตทำไมรถถึงไปจอดตรงนั้น ทั้งๆที่จะมีรถเขามามากและลักษณะการจอดก็เป็นการจอดขวางไม่พร้อมที่จะเอาของจากโหลดดิ้งลง ส่วนถ้าเป็นคนข้างนอกขับรถมาโยนก็ต้องไหม้ข้างบน แต่เท่าที่สังเกตจากด้านนอกโรงงานเหมือนมันไหม้มาจากด้านล่างของกล่องกระดาษ ถึงได้ต้องขุดเอากล่องออกมาหมด และทำไมต้องรีบเก็บล้างหลักฐาน ทำไมไม่ให้คณะกรรมการสหภาพเข้าไปดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย ยังสงสัยว่าทำไมคราวนี้ระดมถังดับเพลิงที่ออกมาจากประตูโหลดดิ้งและดับได้เร็วมาก เมื่อเทียบกับคราวจักรไหม้ นานกว่ากันมากๆ ผู้ชุมนุมที่เห็นเหตุการณ์กล่าวและตั้งข้อสังเกต


 


จากการสังเกตบริเวณที่เกิดไฟไหม้มีที่เก็บถังดับเพลิงอยู่ และมีป้ายห้ามสูบบุหรี่ติดอยู่ถึง 3 ป้าย


 


ทั้งนี้ทางผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสได้ถามโยธิน ว่าเจ้าหน้าที่ได้บอกหรือไม่ว่าอุปกรณ์ที่ใช้ในการวางเพลิงคืออะไร และมีหลักฐานหรือไม่


 


ด้านโยธินกล่าวว่า ไม่มี มีแต่พยานที่เขาบอกว่าเห็นตนขึ้นบันไดไปวางเพลิง แล้วลงมาขึ้นมอเตอร์ไซต์ขับหลบหนีออกไป ส่วนเรื่องคดีนั้นก็ต้องคอยให้เจ้าหน้าที่นัดมาอีกที


 


................
อ่านเพิ่มเติม


 


ปธ.สหภาพไทรอัมพ์ ถูกเลิกจ้าง นายจ้างอ้างใส่เสื้อ "ไม่ยืนฯ" ทำ บ.เสียชื่อ


สหภาพแรงงานไทรอัมพ์รวมตัวผละงาน เรียกร้องรับ "ปธ.สหภาพ" กลับเข้าทำงาน


สหภาพแรงงานไทรอัมพ์ 400 กว่าคนบุกสำนักงานใหญ่ กดดันนายจ้างเรียกร้องความเป็นธรรม


สหภาพแรงงานไทรอัมพ์ ผละงานวันที่ 3 นายจ้างยันไม่รับประธานสหภาพเข้าทำงาน


ร่อนจดหมายประณามเลิกจ้าง ปธ.สร.ไทรอัมพ์ จี้หยุดละเมิดสิทธิมนุษยชน-ทำลายสหภาพแรงงาน


แรงงานไทรอัมพ์ฯ นับพันบุกทำเนียบ ร่อนหนังสือจี้นายกฯ แก้ปัญหา "ขบวนการล้มสหภาพแรงงาน"


พนง.ไทรอัมพ์-ทีไอจี ร่วมชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมัน ร้องช่วยปราม บ.เคารพสิทธิแรงงาน


แถลงการณ์ต่อสื่อมวลชนของบริษัทไทรอัมพ์ สำนักงานใหญ่ ประเทศเยอรมัน
นักวิชาการมอบเงินผ้าป่าหนุนสหภาพแรงงานไทรอัมพ์ ระบุไม่ควรอ้างสถาบันกษัตริย์เป็นเครื่องมือรังแกคนจน
ประมวลความเคลื่อนไหวสหภาพแรงงานไทรอัมพ์ 10 - 14 ส.ค. ที่ผ่านมา


สหภาพแรงงานไทรอัมพ์ ประกาศชุมนุมและเคลื่อนไหวจนกว่าบริษัทจะยอมรับขอเสนอของสหภาพฯ


สหภาพแรงงานไทรอัมพ์ฯ ปัญหารุม สมาชิกถูกกล่าวหาลอบวางเพลิง


 


เสวนา : การละเมิดสิทธิแรงงาน: กรณีศึกษาสหภาพแรงงานไทรอัมพ์ โฮยา อัลมอนส์ ฯลฯ"
สหภาพแรงงานตะวันออก ค้านการจัดระเบียบการชุมนุมและร้องสิทธิคนงานไทรอัมพ์
เสวนา: "กระบวนการยุติธรรมกับสิทธิแรงงาน"


 


 


บทความ :เมื่อคนงานไทรอัมพ์ฯ ลุกขึ้นสู้ กอบกู้ศักดิ์ศรีกรรมาชีพ


เกรียงศักดิ์ ธีระโกวิทขจร : ทัศนะที่อันตรายกรณีไทรอัมพ์


 


คำพิพากษาศาลแรงงานกลางจังหวัดสมุทรปราการ


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net