บทบรรณาธิการวารสารฟ้าเดียวกัน ฉบับ "ขวาไทย"

ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ

ขวาไทย

บทบรรณาธิการฟ้าเดียวกัน ปีที่ 6 ฉบับที่ 2 เมษายน-มิถุนายน 2551

 

 

คล้ายกับว่าการเคลื่อนไหวของขบวนการ "ภาคประชาชน" ในนาม "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" และแนวร่วม จะขับเคลื่อนผลักดันสังคมการเมืองไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น แต่พลันเมื่อพิจารณาทั้งเนื้อหาและท่วงทำนองจนครบถ้วนแล้ว ก็ประจักษ์ชัดว่าพวกเขากำลังบ่อนเซาะทำลายประชาธิปไตยอย่างถึงราก

 

คล้ายกับว่าการเคลื่อนไหวโจมตีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในกรณีบิดเบือนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ล้อมปราบ 6 ตุลาคม 2519 จะนำไปสู่การชำระสะสางประวัติศาสตร์บาดแผลที่เรื้อรังมากว่า 3 ทศวรรษ แต่พลันเมื่อพลพรรคพันธมิตรฯ พากันปิดตาอีกข้าง บอดใบ้ต่อเครือข่ายฆาตกร 6 ตุลาฯ ที่ร่วมสังฆกรรมกันอยู่ ซ้ำยังฉวยใช้อุดมการณ์ชาติ-ศาสน์-กษัตริย์มาทำลายล้างศัตรูทางการเมืองของตนอย่างบ้าคลั่ง บรรยากาศแบบขวาพิฆาตซ้ายก็พัดหวนคืนมา คลอเคลียไปกับเสียงเพลงพระราชนิพนธ์ "เราสู้"

 

คล้ายกับว่าข้อเสนอ "การเมืองใหม่" ของกลุ่มพันธมิตรฯ จะชี้ทิศนำทางให้การเมืองไทยข้ามพ้นข้อจำกัดของประชาธิปไตยตัวแทนแบบเสรีนิยม แต่พลันที่พวกเขาเปลือยความคิดออกมา "การเมืองขวาใหม่" ก็ปรากฏให้เห็นแจ่มชัดอยู่เบื้องหน้า

 

ด้านหนึ่ง การเมืองขวาไทย ณ พ.ศ. 2551 ช่างทาบทับกับการเมืองของฝ่ายขวา ณ พ.ศ. 2519 ได้อย่างพอเหมาะพอดี ทั้งในแง่อุดมการณ์ชี้นำและอาวุธทางการเมือง ณ วันนี้เราจึงยังพบข้อกล่าวหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเกลื่อนกล่นไปทั่ว เราจึงยังได้ยินเพลงปลุกใจประเภท "หนักแผ่นดิน" อยู่เนืองๆ เราจึงยังได้เห็นกระบวนการปลุกเร้ากระแสราชาชาตินิยมอย่างรุนแรง เราจึงยังได้เป็นประจักษ์พยานแก่การป่าวร้องให้ทหารหาญก้าวออกมาแทรกแซงการเมืองเพื่อเป็นราชพลี

 

ทว่าอีกด้านหนึ่ง ในความเก่าย่อมมีความใหม่ มีพลวัต ไม่หยุดนิ่งตายตัว ซ้ำยังพลิกกลับหัวกลับหางเสียใหม่ในบางลักษณะ

 

พิจารณาเฉพาะปรากฏการณ์พื้นผิวที่ปรากฏต่อสาธารณชน จาก 2519 ถึง 2551 พลพรรคขวาไทยได้เคลื่อนย้ายศัตรูจากผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ไปเป็นขบวนการสาธารณรัฐ พวกเขามิได้สดุดีระบบทุนนิยมเป็นพระเจ้าแข่งกับเศรษฐกิจสังคมนิยมอีกต่อไปแล้ว พวกเขาผลิตวาทกรรม ทุนนิยมสามานย์ขึ้นมาพร้อมกับเชิดชูเศรษฐกิจพอเพียงให้สูงเด่น ลักษณะหน้าตาของผู้นำขบวนการฝ่ายขวาได้เปลี่ยนจากขุนศึกไปเป็นนักสื่อสารมวลชนและนักเคลื่อนไหวภาคประชาชนเสียแล้ว

 

พลพรรคขวาใหม่ยังคงแลเห็นประชาชนส่วนใหญ่ว่าโง่เง่า ไม่พร้อมที่จะเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย ถูกนักการเมืองซื้อด้วยเงินบ้างหรือผลประโยชน์เฉพาะหน้าในรูปอื่นบ้าง แม้พวกเขาไม่วางใจในประชาชน แต่ขณะเดียวกันก็กลับเรียกร้องประชาธิปไตยทางตรงหรือกระบวนการมีส่วนร่วมทางการเมือง บ่อยครั้งก็แอบแฝงทำลายหลักการประชาธิปไตยด้วยโวหารทางการเมืองที่ก้าวหน้าชวนหลงใหล

 

ถึงที่สุด "การเมืองใหม่" ของขวาไทย ณ พ.ศ. 2551 นั้น ย่อมไม่ใช่เค้าโครงทางการเมืองที่หันกลับไปหาของเก่า หากเป็นการเมืองประดิษฐ์ใหม่ในนาม "ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข" ซึ่งยังประกอบสร้างไม่แล้วเสร็จ อิหลักอิเหลื่อ และไม่แน่ว่าจะไปสิ้นสุดที่ใด

 

คำถามชวนคิดต่อมาก็คือว่า สิ่งใดเล่าเป็นเนื้อดินที่คอยหล่อเลี้ยงให้ขวาไทยดำรงต่อเนื่องมา เติบโต และวิวัฒนาการสืบไปในสังคมไทย เหตุใดสังคมการเมืองไทยยังคงอนุญาตให้กระแสความคิดฝ่ายขวาสามารถโลดแล่นได้อย่างมีชีวิตชีวา ไม่ว่าจะพรั่งพรูออกมาจากนักวิชาการชั้นนำ จากแกนนำภาคประชาชน จากราษฎรอาวุโส จากผู้นำกองทัพ จากสื่อมวลชน จากปัญญาชนสาธารณะ จากอดีตคอมมิวนิสต์ จากสถาบันจารีตและบริวาร

 

แน่นอนว่า หนทางการสัประยุทธ์กับกระแสขวาใหม่ย่อมมิใช่การหลบเลี่ยงหรือปฏิเสธปัญหาของระบบเศรษฐกิจการเมืองที่พันธมิตรฯ และแนวร่วมหยิบยกขึ้นมาจุดชนวนการเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นข้อจำกัดของระบบประชาธิปไตยตัวแทนแบบไทยๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างเศรษฐกิจการเมืองที่ฉ้อฉลไม่เป็นธรรม

 

หากต้องเผชิญหน้าอย่างกล้าหาญ และเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจการเมืองให้ถึงรากอย่างแท้จริง ตามเงื่อนไขที่เอื้ออำนวย ตามพละกำลังที่เป็นจริง

ขณะเดียวกันก็ต้องระมัดระวังไม่ให้การเคลื่อนไหวนั้นๆ กลับช่วยทำนุบำรุงเนื้อดินของ "การเมืองของสัตว์พิเศษ" ให้อุดมสมบูรณ์ยิ่งขึ้นไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท