ตามที่เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ตัวแทนพนักงานโรงงาน บจก.โฮยา กลาสดิสค์ (ประเทศไทย) นิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ จ.ลำพูน ได้ยื่นข้อเรียกร้อง 13 ข้อ พร้อมลงลายมือชื่อกว่า 3,286 รายชื่อ ขอเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างงานให้กับตัวแทนจากสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดลำพูน ที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดลำพูน และมีการชุมนุมประกาศข้อเรียกร้องหน้าโรงงานในช่วงเย็นวันดังกล่าวนั้น

และเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ที่ผ่านมา ตั้งแต่เวลาประมาณ 14.00 น. ตัวแทนพนักงาน 7 คนได้เริ่มเจรจารอบที่ 2 กับผู้บริหาร และในเวลา 17.00 น. พนักงาน บกจ.โฮยาฯ ทั้งกะกลางวันที่เพิ่งเลิกงานและกะกลางคืนที่รอเข้าทำงาน ได้ทยอยกันมาชุมนุมด้านหน้าโรงงาน เพื่อรอฟังผลเจรจา โดยในวันนี้พนักงานได้ร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมากถึง 2,000 กว่าคน

ในการชุมนุม พนักงานมีการแจกเอกสาร หน้าแรกเป็น "จดหมายถึง ประธานบริษัทโฮย่ากลาสดิสค์ประเทศไทยจำกัด "เรื่อง การยื่นข้อเรียกร้องและเจรจาต่อรองของพนักงาน" โดยเนื้อหาระบุว่าเพื่อให้กำลังใจประธานบริษัทใช้ความกล้าหาญในการตัดสินใจตกลงให้ตามข้อเรียกร้องที่พนักงานเสนอ ให้คุณภาพชีวิตและสภาพการทำงานของพนักงานบริษัทฯ ดีขึ้นดังเช่นผลประกอบการของบริษัทฯ ให้ขวัญและกำลังใจของพนักงานกลับคืนมาดังเดิม และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทางบริษัทจะไม่ปฏิบัติการใดๆ อันจะนำไปสู่ความไม่เข้าใจในการเจรจา โดยจดหมายฉบับดังกล่าวมีการทำสำเนาถึงสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดลำพูนด้วย (รายละเอียดที่นี่)

หน้าสองของเอกสาร เป็น "แถลงการณ์ฉบับที่ 4 สาส์น จากทีมเจรจาตัวแทนพนักงานและพนักงานผู้ลงลายมือชื่อข้อเรียกร้อง บริษัทโฮยากลาสดิสค์ ประเทศไทย จำกัด 3,286 คน" ให้กำลังใจเพื่อนคนงาน และชี้แจงเหตุผลในการยื่นข้อเรียกร้องว่าเป็นเพราะค่าครองชีพทางเศรษฐกิจสูงขึ้น ขณะที่ผลประกอบการของบริษัทจากข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ก็ระบุว่าในปี 2549 ก็ได้กำไรสุทธิกว่า 4,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2548 ที่ได้กำไรสุทธิราว 3,400 ล้านบาท โดยสาส์นดังกล่าวยังเรียกร้องให้พนักงาน บจก.โฮย่าฯ ร่วมแรงร่วมใจกับแกนนำการเจรจาในการเรียกร้องครั้งนี้ เพื่อให้นำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของพนักงานทุกคน (รายละเอียดที่นี่)

สำหรับบรรยากาศของการชุมนุม เมื่อเวลา 17.30 น. พนักงาน บจก.โฮย่าฯ ได้มีการเชิญพ่อครูมาทำพิธีสู่ขวัญ หรือการเรียกขวัญ เพื่อเสริมกำลังใจ และเป็นสิริมงคลให้กับพนักงานที่มาชุมนุม และต่อมาตัวแทนพนักงานได้ขึ้นกล่าวปราศรัย โดยตั้งคำถามว่าบริษัทเป็นห่วงสุขภาพของพนักงานจริงหรือไม่ เพราะอุปกรณ์ป้องกันแผนกที่ต้องทำงานกับน้ำกรดในโรงงาน มีเพียงหน้ากากอนามัย หรือผ้าแมส โดยเขายังกล่าวกับพนักงานอีกด้วยว่า สัญญาได้ไหม ว่าจะกลับมารวมกันแบบนี้อีก ทุกครั้งที่มีการต่อสู้

พนักงานอีกรายหนึ่ง ได้กล่าวแสดงความรู้สึกว่า พี่น้องพนักงานต่างหาเช้ากินค่ำ หารายได้เลี้ยงครอบครัว แต่ของอุปโภคบริโภคแพงขึ้น แต่ไม่รู้ทำไมค่าแรงถึงเท่าเดิม ค่าน้ำมัน ค่ากับข้าว ขึ้นแล้วขึ้นอีก มาม่าจากเดิมซองละ 5 บาท กลายเป็นซองละ 7 บาทแล้ว ทำไมค่ายืนยังได้วันละ 7 บาทเหมือนเดิม ทำไมค่าแรงถึงไม่ขึ้นด้วย ที่ผ่านมาพนักงานเสนอให้แก้ไขปรับปรุงสภาพการจ้างงานหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยได้รับการพิจารณา และเขายังกล่าว่าผู้บริหารดีๆ บางส่วนก็ยังมีอยู่ และขอให้กำลังใจผู้บริหารบางส่วนที่เข้าใจการเคลื่อนไหวของพนักงานครั้งนี้

ต่อมาพนักงาน บจก.โฮย่า ได้เชิญ นายศักดา เพชรา พนักงานบริษัทอีเอฟดี ประเทศไทย จำกัด จากสหภาพแรงงานอัญมณีและเครื่องประดับสัมพันธ์ มากล่าวให้กำลังใจเพื่อนคนงาน โดยเขากล่าวว่าพี่น้องแรงงานไม่ได้อยู่แค่นิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ จ.ลำพูน หรือแค่ในประเทศไทย ทุกวันนี้ค่าแรงขั้นต่ำ 150 บาทพอกินหรือไม่ แล้วเมื่อคนงานเรียกร้องสิทธิ สวัสดิการ นายจ้างกลับหาว่าเราเป็นพวกหัวรุนแรง แต่ขอย้อนถามว่าแล้วที่นายจ้างทำกับพวกเราคนงานนั้นจะให้เรียกว่าอะไร วันนี้พนักงานอีเอฟดีขอมาให้กำลังใจเพื่อนพนักงานโฮยา เพราะเราเป็นคนงานเหมือนกัน ถ้าไม่เห็นใจกัน แล้วใครจะเห็นใจเรา

และเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. ตัวแทนพนักงานทั้ง 7 คน ที่เข้าเจรจากับผู้บริหารของบริษัทได้มายังเวทีปราศรัย เพื่อแจ้งผลการเจรจาให้กับพนักงาน โดยนายอัครเดช ชอบดี หนึ่งในตัวแทนเจรจาของพนักงาน กล่าวว่า ขอให้พวกเราสู้ด้วยความรู้ สมอง และความสามารถ อย่าใช้ความรุนแรง เราจะเดินตามกฎ กติกา มารยาท เราจะอดทนต่อสู้อย่างสง่างาม เพราะเราคือนักรบแรงงานภาคเหนือ แม้วันนี้ชัยชนะยังไม่เกิดขึ้น แต่ขอให้พวกเราเคียงข้างกันต่อไป เหลืออีกไม่กี่วันเราก็จะประสบความสำเร็จแล้ว ขอให้พวกเราสู้อย่างมีอุดมการณ์ และสู้อย่างมีกติกา

นายศรีทน เปรื่องวิชาธร หนึ่งในตัวแทนทีมเจรจา กล่าวถึงผลการเจรจาในวันนี้ว่า การเจรจาครั้งแรกเมื่อ 13 ธ.ค. คืบหน้าไปแล้ว 3 ข้อ สำหรับวันนี้มีความคืบหน้าของการเจรจาอีก 3 ข้อ คือข้อเรียกร้องที่ 1, 2 และ 4 ในส่วนของ ข้อเรียกร้องที่ 1 ที่ขอให้บริษัทฯ จ่ายโบนัสให้กับพนักงานครั้งละ 2.5 เท่าทุกคนนั้น ทางบริษัทเห็นว่ามากเกินไป แต่บริษัทได้รับข้อเสนอนี้ไว้พิจารณา และจะแจ้งว่าจะสามารถจ่ายโบนัสให้ได้เท่าไหร่ในการเจรจาครั้งต่อไป

ข้อเรียกร้องข้อที่ 2 ขอให้บริษัทฯ เพิ่มค่าน้ำมันให้กับพนักงานทุกคนจากเดิมที่บริษัทฯ จ่ายค่าน้ำมันให้พนักงานวันละ 20 บาท เป็นวันละ 50 บาทนั้น การเจรจาวันนี้ผู้บริหารเสนอเพิ่มค่าน้ำมันจากเดิมวันละ 20 บาท เป็น 32 บาท

เมื่อผู้แทนเจรจาถามว่าพนักงานเห็นด้วยหรือไม่ พนักงานที่ชุมนุมอยู่ได้ปฏิเสธข้อเสนอของผู้บริหาร และเสนอว่าเอา 40 บาท ดังนั้นทีมเจรจาจึงรับที่จะไปเจรจาค่าน้ำมันในอัตราวันละ 35-40 บาท ต่อไป

ข้อเรียกร้องข้อที่ 4 ขอให้บริษัทฯ ปรับสภาพการจ้างของพนักงานรายวันที่ทำงานติดต่อกัน 3 ปีขึ้นไปให้เป็นพนักงานรายเดือนนั้น ทางบริษัทเสนอกลับมาว่าขอเปลี่ยนสภาพการจ้างเป็นพนักงานรายเดือนเป็น 5 ปี โดยทีมเจรจาได้ถามว่าพนักงานจะยอมรับข้อเสนอนี้ได้หรือไม่ แต่พนักงานไม่ยอม และยืนยันตามข้อเรียกร้องเดิม

นายศรีทนกล่าวว่า ในวันที่ 26 ธันวาคม จะมีการเจรจากับบริษัทเป็นครั้งที่ 3 ทิศทางการเจรจาคงจะดีขึ้นกว่านี้ ขอให้พนักงานอย่าเพิ่งท้อ อย่าถอนชื่อ ขอให้หนักแน่นไว้ ทีมเจรจา 7 คนเรียกร้องไม่ไหว พนักงาน 3,000 กว่าคนต้องช่วยพวกเราด้วย

โดยการชุมนุมเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. สิ้นสุดในเวลาประมาณ 20.00 น. โดยผู้ชุมนุมที่ทำงานกะกลางวันได้ทยอยกลับบ้าน และผู้ชุมนุมที่ทำงานกะกลางคืน ก็รอเข้าทำงานตามปกติต่อไป

000

สรุปความคืบหน้าของการเจรจาข้อเรียกร้องเพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้าง ยื่นต่อ บจก.โฮยากลาสดิสค์ (ประเทศไทย) (หลังการเจรจาครั้งที่ 2 วันที่ 18 ธันวาคม 2550)

1. ข้อเรียกร้องที่ผู้บริหารยอมรับ

2. ข้อเรียกร้องที่มีการเจรจาในวันที่ 18 ธ.ค.

3. ข้อเรียกร้องที่มียังไม่มีการเจรจา และรอการเจรจาในวันที่ 26 ธ.ค.